แต่งบ้านด้วยหิน วิธีปูหินแกรนิตและวิธีถนอมหินให้สวยขึ้นเงา

หินแกรนิตเป็นอะไรได้บ้าง

แกรนิตเป็นหินขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน มีหน้าหินที่แข็ง และมีลักษณะที่สง่างาม ด้วยราคาเริ่มต้นที่ย่อมเยาและคุณสมบัติในการทนการขีดข่วน หินแกรนิตจึงตัวเลือกอันดับต้น ๆ ที่ผู้คนนิยมนำมาใช้ในการปูพื้นบ้าน หินแกรนิตยังโดดเด่นไปด้วยลวดลายที่เกิดจากการตกตะกอนของแร่ต่างชนิดซึ่งทำให้มันสามารถเข้ากับสไตล์การตกแต่งได้หลากหลาย เช่น แร่ควอตซ์ (Quartz) ที่ให้สีขาวเทา, เฟลด์สปาร์ (Feldspar) ที่ให้จุดแต้มสีแดงชมพู หรือโซดาไลต์ (Sodalite) ที่ให้ลายคลื่นสีฟ้าคราม

ซึ่งไม่ว่าจะเป็นพื้นห้องโถง ทางเดิน ห้องน้ำ ท็อปเคาน์เตอร์ครัว หรือแม้แต่ของแต่งบ้าน แกรนิตก็เป็นตัวเลือกที่ถือว่าคุ้มราคาและเพิ่มคุณค่าให้กับบ้านของคุณได้เป็นอย่างดี

ขั้นตอนการปูหินแกรนิตแบบคร่าว ๆ

การปูหินแกรนิตประกอบไปด้วย 6 ขั้นตอนหลัก ดังนี้

1. เตรียมพื้นผิวให้พร้อมก่อนลงหิน และเตรียมหิน
2. วางรูปแบบดีไซน์เพื่อกำหนดแนวทางในการปูหิน
3. เทปูนหรือกาวลงบนพื้นผิว
4. ปูหินตามดีไซน์ที่วางเอาไว้ และลงยาแนวหากเป็นการปูแบบเว้นร่อง
5. เก็บงานให้เรียบร้อยด้วยการดัดขอบเข้ามุม
6. ทำความสะอาด

รายละเอียดของแต่ละขั้นตอนจะอยู่ในหัวข้อต่อไป

ก่อนปูพื้นหินแกรนิตต้องเตรียมอะไรบ้าง

• ก่อนลงมือปูพื้นแกรนิต ควรทำความสะอาดแผ่นหินและเคลือบด้วยน้ำยากันซึม โดยชโลมน้ำยาให้บนพื้นผิวทุกด้านแล้วทิ้งให้แห้ง 
• เลือกยาแนวที่เหมาะสมกับชนิดของหินและพื้นที่ใช้งาน
• เช็กความมั่นคงของพื้นที่จะปูหิน ในกรณีของการปูหินทับพื้นเดิม ควรตรวจเช็กและซ่อมแซมหากมีรอยรั่วหรือรอยแตกให้เรียบร้อยก่อน
• ปรับระดับพื้นให้เสมอกันและทำความสะอาดพื้นที่ที่จะใช้ปูพื้นแกรนิตก่อนเริ่มติดตั้ง
• กาวซีเมนต์ เมื่อผสมแล้วจะใช้เวลาประมาณ 30 นาทีในการจะแข็งตัว การผสมกาวเตรียมไว้ในปริมาณมากจึงไม่ใช่วิธีที่เหมาะสม เนื่องจากกาวจะแข็งตัวก่อนที่เราจะได้ใช้งาน
• เตรียมผ้าหรือฟองน้ำชุบน้ำหมาด ๆ ไว้เพื่อทำความสะอาด เพราะในระหว่างการติดตั้ง กาว ปูนหรือยาแนวอาจเปื้อนออกมาบนหน้าหิน ซึ่งเราควรทำความสะอาดทันที
  

วิธีการปูหินแกรนิต ทำได้อย่างไร

การปูพื้นแกรนิตมีอยู่ 3 วิธีหลัก ได้แก่ การปูด้วยปูน การปูโดยใช้กาวซีเมนต์ และการปูทับพื้นเดิม

การปูด้วยปูนทราย

1. ผสมปูนกับน้ำตามอัตราส่วนที่ระบุไว้ตามฉลากของผลิตภัณฑ์ และกวนให้เข้ากัน
2. เทปูนลงบนพื้นผิวที่จะปูหิน โดยให้พื้นปูนหนาประมาณ 3-5 เซนติเมตร (ไม่รวมความหนาของหิน) และปรับระดับให้ได้แนวราบเสมอกันทั้งบริเวณ
3. ทากาวซีเมนต์ลงบนพื้นหลังแผ่นหิน และวางลงบนพื้นปูนที่ได้เตรียมเอาไว้ หรือใช้น้ำยาประสานปูนซึ่งเป็นตัวเลือกสะดวกกว่าในการติดตั้งหิน ขั้นตอนนี้ไม่ควรใช้เทคนิคการทากาวแบบซาลาเปา (การทากาวแบบซาลาเปาคือ การโปะกาวเป็นก้อนกลมคล้ายซาลาเปาบนแผ่นหิน) เนื่องจากจะทำให้เกิดช่องว่างใต้แผ่นหิน ส่งผลให้หินหลุดง่าย
4. ใช้ตัวกั้นร่องกระเบื้อง (Tile spacers) เพื่อช่วยจัดแนวและใช้ค้อนยางเคาะเบา ๆ บนแผ่นหินเพื่อให้ได้ระดับเท่ากัน
5. วางหินต่อในครบตามแบบที่ต้องการและปล่อยพื้นหินทิ้งไว้อย่างน้อย 72 ชั่วโมงเพื่อให้กาวแห้ง
6. ใช้คีบปากแหลมดึงตัวกั้นร่องออกและลงยาแนวตามร่อง และรอจนยาแนวแข็งตัว
7. ทำความสะอาดด้วยการเช็ดฝุ่น คราบกาว หรือคราบยาแนวออก (ควรเช็ดทันทีที่มีรอยเปื้อนก่อนผลิตภัณฑ์จะแข็งตัว) เท่านี้ก็ถือว่าเสร็จการปูพื้นแกรนิตบนปูนแล้ว

ปูพื้นแกรนิตโดยใช้กาวซีเมนต์

การติดตั้งแกรนิตด้วยกาวซีเมนต์เหมาะสำหรับพื้นที่ปรับระดับแล้ว มีขั้นตอนของการติดตั้งที่คล้ายคลึงกับการปูพื้นบนปูนทราย

1. ผสมกาวซีเมนต์กับน้ำ ใช้สัดส่วนตามคำแนะนำที่อยู่บนฉลากของผลิตภัณฑ์ (เช่น กาว 1 ถุงจะใช้น้ำประมาณ 3-5 ลิตร) กวนให้เข้ากัน
2. เทกาวซีเมนต์ลงบนพื้นแล้วใช้เกรียงหวีปาดกาวให้เป็นร่อง เทในปริมาณที่เพียงพอต่อ 1 ตารางกิโลเมตรหรือ ต่อหินหนึ่งแผ่น
3. ใช้เกรียงหวีปาดกาวลองบนหลังแผ่นแกรนิตให้เป็นร่อง
4. วางแผ่นหินลงบนพื้นกาว แล้วใช้ค้อนยางทุบเพื่อได้ระดับ โดยสามารถใช้ตัวกั้นร่องกระเบื้องเป็นตัวช่วยได้
5. เทกาวและวางหินต่อในครบตามแบบที่ต้องการ ก่อนปล่อยพื้นหินทิ้งไว้อย่างน้อย 72 ชั่วโมงเพื่อให้พื้นเซตตัว
6. ลงยาแนวตามร่องระหว่างแผ่นหิน และรอให้ยาแนวแข็งตัว
7. ทำความสะอาด เช็ดคราบกาวหรือยาแนวออก (ควรเช็ดทันทีที่มีรอยเปื้อนก่อนผลิตภัณฑ์จะแข็งตัว) และเช็ดฝุ่น เท่านี้ก็ถือว่าเสร็จการปูพื้นแกรนิตบนปูน

การปูแกรนิตทับพื้นเดิม

วิธีนี้เหมาะสมกับพื้นที่ที่ต้องการใช้งานด่วน เราสามารถปูแกรนิตทับพื้นกระเบื้องหรือพื้นไม้อัดโดยไม่จำเป็นจะรื้อพื้นเก่าออกและใช้กาวซีเมนต์เป็นตัวยึด ก่อนติดตั้ง ควรมีการวางแผนและคำนึงถึงน้ำหนักของหินและความหนาของพื้นทั้งหมด หินแกรนิตเป็นหินที่มีน้ำหนักค่อนข้างมาก พื้นด้านล่างควรมีความแข็งแรง ไม่สึกกร่อน ไม่มีรอยแตก และควรมีการทำความสะอาดพื้นผิวให้แห้งและปราศจากเศษไม้ เศษปูนหรือคราบต่าง ๆ ก่อนปูพื้นแกรนิตทับ

นอกจากพื้นแล้ว แกรนิตยังสามารถนำไปปูผนังได้ ซึ่งวิธีติดตั้งจะแบ่งออกเป็น 2 วิธี ได้แก่ การติดตั้งแบบแห้งและการติดตั้งแบบเปียก

การติดตั้งผนังแกรนิตแบบแห้ง (Dry Process หรือ Mechanical Fixing)

การติดตั้งหินแบบแห้งคือ การติดหินแบบใช้เพลตหรือ Body anchors ในการยึดแผ่นหินเข้ากับโครงสร้างผนัง โดยแผ่นหินควรมีขนาดไม่เกิน 60X80 เซนติเมตร และจำเป็นตัองมีการตั้งนั่งร้านหรือโครงเหล็กไว้เพื่อช่วยผนังรองรับน้ำหนักของแผ่นหินในขณะที่ติดตั้ง 

เริ่มต้นติดหินแกรนิตจากมุมล่างสุดก่อน แล้วเรียงให้เป็นแถวจากซ้ายไปขวาหรือขวาไปซ้าย เพื่อให้หินแถวล่างช่วยรับน้ำหนักหินแถวต่อไป ซึ่งเราสามารถใช้ปูนทรายเข้ามาช่วยเสริมความแข็งแรงของแถวล่างได้ด้วย

การติดแบบแห้งเหมาะสำหรับผนังหนังที่มีความสูง ผนังที่อยู่ภายนอกอาคาร และสำหรับหินที่น้ำซึมได้ดีเพราะแผ่นหินจะอยู่ห่างจากโครงสร้างกำแพงประมาณ 3-4 เซนติเมตร ซึ่งช่องว่างตรงนี้จะช่วยให้ระบายน้ำและช่วยให้น้ำระเหยจากหินได้ง่าย

การติดตั้งผนังแกรนิตแบบเปียก (Wet Process)

การติดตั้งแบบเปียกคือ การติดหินโดยใช้ปูนทรายเป็นตัวยึดหินกับโครงสร้างกำแพง เหมาะกับผนังในอาคารที่ไม่สูงมาก วิธีนี้จะง่ายกว่าวิธีติดตั้งแบบแห้งเนื่องจากไม่จำเป็นต้องมีการตั้งนั่งร้านและไม่จำเป็นต้องเจาะหรือบากหินเพื่อติดแพลต วิธีนี้อาจจะใช้เวลานานกว่าการติดตั้งแบบแห้ง แต่มีต้นทุนที่ถูกกว่าและใช้อุปกรณ์น้อยกว่า

ข้อเสียของการติดตั้งหินแบบเปียกคือ หินสามารถทำปฏิกิริยากับปูนทรายทำให้เกิดเป็นคราบตะกอนขาวบนหน้าหินที่มีลักษณะเหมือนชอล์กผง คราบขาวเหล่านี้เรียกว่า “Efflorescence” ซึ่งก็คือเกลือที่มาจากปูน หินที่ติดอยู่กับปูนจะดูดซับความน้ำจากเนื้อปูนซึ่งเกลือเหล่านี้ก็เคลื่อนที่ไปพร้อมกับน้ำ เมื่อน้ำระเหยจากตัวหินจึงทิ้งคราบเกลือไว้ เกิดเป็นผงขาว ๆ ที่เรามักเห็นตามผนังหิน

การติดตั้งผนังแกรนิตแบบแห้งและแบบเปียก

คำแนะนำในการปูหินแกรนิต

แกรนิตทุกชนิดย่อมมีเงื่อนไขและข้อจำกัดที่ต่างกันออกไป ในบางกรณีการเคลือบน้ำยากันซึมอาจต้องทำหลังจากการติดตั้งเพราะน้ำยากันซึมอาจจะทำให้หินไม่ติดกาว และทั้งการปูพื้นหินแกรนิตหรือการติดผนังควรอยู่ภายใต้การดำเนินการของช่างที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ เพื่อให้พื้นหินออกมามีรอยต่อที่เรียบเนียน มีพื้นผิวที่สม่ำเสมอ ปลอดภัยต่อการใช้งานและแข็งแรงคงทน ซึ่งช่างของ G1 Stoneworks ทุกคนก็ยินดีให้บริการคุณ

การดูแลรักษาหินแกรนิตหลังติดตั้ง

หินแกรนิตเป็นวัสดุจากธรรมชาติที่สง่า มีอายุการใช้งานที่นาน แต่หากจะให้หินอยู่กับบ้านเราได้ในสภาพที่สวยเงา เราควรมีใส่ใจในการดูแลรักษาอยู่เสมอ หินธรรมชาติส่วนใหญ่เป็นหินที่มีรูพรุนที่ทำให้น้ำซึมเข้าไปและเกิดเป็นรอยน้ำได้ง่าย หินแกรนิตเองก็เข่นกัน ฉะนั้นก่อนติดตั้งจึงควรเคลือบหินด้วยน้ำยาเฉพาะ (Sealer) โดยจำเป็นต้องทาน้ำยาเคลือบลงบนพื้นผิวทุกด้านของแผ่นหิน และทิ้งไว้เป็นเวลา 24 ชั่วโมงเพื่อให้น้ำยาเซตตัวและอุดรูพรุนของหิน 

โดยส่วนใหญ่แล้ว พื้นหินแกรนิตจะต้องการการเคลือบอย่างน้อย 1 ครั้งในทุก 12 เดือน แต่หินแกรนิตต่างชนิดก็ย่อมมีธรรมชาติที่ต่างกัน ฉะนั้นควรศึกษาข้อมูลของหินและปรึกษาช่างก่อนตัดสินใจปูพื้นแกรนิตเสมอ

พื้นแกรนิตที่เคลือบแล้วจะมีความเงางามและทำความสะอาดได้ง่าย ฝุ่นหรือสิ่งสกปรกบนพื้นหินสามารถทำได้ด้วยผ้าชุบน้ำหมาด ๆ แล้วเช็ดให้แห้ง ส่วนคราบสนิมและคราบอื่น ๆ ที่เกิดจากการใช้งานก็สามารถใช้น้ำยาสำหรับทำความสะอาดหินได้ ผลิตภัณฑ์ที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ ผักซักฟอก น้ำยาทำความสะอาดที่เป็นกรดหรือด่างรุนแรง น้ำมันก๊าด และน้ำมันมะกอก เนื่องจากผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะทำให้หน้าหมดความเงางาม และอาจทิ้งคราบฝังลึกบนหิน

แต่งบ้านในสไตล์ที่เป็นคุณ 

การปูพื้นหินแกรนิตเป็นการลงทุนในวัสดุที่ทนทานและเป็นการเพิ่มคุณค่าของบ้านด้วยความสง่าที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งขั้นตอนการปูหรือการติดตั้งอาจจะค่อนข้างซับซ้อนและควรอยู่ภายใต้การควบคุมของช่างผู้ที่มีความชำนาญและความรู้เรื่องหินอย่างแท้จริง 

ผู้คนยังนิยมนำใช้แกรนิตในการทำท็อปครัว เสา หรือแม้แต่ของแต่งบ้านอย่างโต๊ะกาแฟ ซึ่งแกรนิตที่ G1 Stoneworks คัดสรรมาก็ล้วนแต่เป็นหินที่มีคุณภาพสูงและมีสไตล์หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Viscont White ที่มีสีขาวเทาแบบคลาสสิก หรือ Azul Bahia สีน้ำเงินครามที่จะยกระดับการแต่งบ้านของคุณให้หรูหราไม่เหมือนใคร นอกจากนี้เรายังมี In-house ดีไซเนอร์ที่พร้อมจะช่วยสร้างบ้านให้สวยในแบบที่คุณต้องการ